...

วันพฤหัสบดีที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

ความรู้เกี่ยวกับ Social Network


       สังคมออนไลน์ (Social Network)

            "Social Network นี้ถือว่าเป็นเทคโนโลยีอีกอันหนึ่ง ที่สามารถช่วยให้เราได้มามีปฏิสัมพันธ์กัน ซึ่งวัตถุประสงค์ที่แท้จริงของคำว่า Social Network นี้จริงๆ แล้วก็คือ Participation หรือ การมีส่วนร่วมด้วยกันได้ทุก ๆ คน (ซึ่งหวังว่าผู้ที่ติดต่อกันเหล่านั้นจะมีแต่ความปรารถนาดี สิ่งที่ดีๆ มอบให้แก่กันและกัน) ถ้าพูดถึง Social Network แล้ว คนที่อยู่ในโลกออนไลน์คงจะรู้จักกันเป็นอย่างดี และก็คงมีอีกหลายคนที่ได้เข้าไปท่องอยู่ในโลกของ Social Network มาแล้ว ถึงแม้ว่า Social Network จะไม่ใช่สิ่งใหม่ในโลกออนไลน์ แต่ก็ยังเป็นที่นิยมอย่างมากในกลุ่มคนที่ใช้อินเตอร์เน็ต ทำให้เครือข่ายขยายวงกว้างออกไปเรื่อยๆ และจะยังคงแรงต่อไปอีกในอนาคต จากผลการสำรวจจากประเทศสหรัฐอเมริกายืนยันการใช้บริการ Social Network ที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี และมาแรงเป็นอันดับต้นๆ ของโลกออนไลน์ ส่วนเว็บไซต์ที่มีจำนวนผู้เข้าชมสูงสุดทั่วโลก ก็เห็นจะเป็น My space, Facebook และ Orkut สำหรับเว็บไซต์ ที่มีเปอร์เซ็นต์เติบโตเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวก็เห็นจะเป็น Facebook แต่สำหรับประเทศไทยที่ฮอตฮิตมากๆ ก็คงจะหนีไม่พ้น Hi5  และ Facebook

ประโยชน์ของ Social Networks
ช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ชื่อของ Facebook และ Twitter ซึ่งเป็นเว็บไซต์ชื่อดังในสังคมหรือชุมชนออนไลน์ (Social Networking) ได้กลายเป็นที่รู้จักและกล่าวขวัญกันในวงกว้างมากขึ้นนะครับ เมื่อทั้ง FB และ Twitter ได้กลายเป็นเครื่องมือสำคัญทางการเมืองและการตลาดของทั้งอดีตนายกรัฐมนตรี และนายกรัฐมนตรีปัจจุบัน เว็บทางด้าน Social Networking เหล่านี้ บางคนอาจจะมองว่าเป็นของเล่นสนุกๆ บนโลกอินเทอร์เน็ต แต่ถ้าสามารถใช้ให้ถูกแล้วเราสามารถใช้เว็บเหล่านี้ให้เป็นประโยชน์ได้ครับ โดยแทนที่เว็บเหล่านี้ จะเป็นเพียงสื่อหรือสังคมออนไลน์ เรามามองเว็บเหล่านี้ให้เป็นเครื่องมือทางการตลาดดูกันบ้าง
ประการแรก เลย เราสามารถใช้เว็บเหล่านี้เป็นเครื่องมือในการสื่อสารข้อความต่างๆ ไม่ว่าของตนเองหรือขององค์กรออกไปยังคนกลุ่มหนึ่ง โดยที่ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายทางด้านการตลาดแต่อย่างใด บางคนก็เรียกเป็นกลยุทธ์ปากต่อปาก หรือ Viral Marketing ที่เมื่อเราโพสต์ข้อความบางประการลงไปในเว็บสังคมออนไลน์เหล่านี้ คนจำนวนมากที่เป็น "เพื่อน" ของเราหรือติดตามเราอยู่ ก็จะได้รับข้อมูลเหล่านั้น และถ้าข้อความดังกล่าวมีความน่าสนใจ ข้อความดังกล่าวก็จะถูกสื่อสารต่อออกไปเรื่อยๆ อย่างเช่น Twitter ของนายกฯ และอดีตนายกฯ ที่ต่างก็พยายามใช้สื่อนี้ในการทำ Viral Marketing อย่างกรณีของอดีตนายกฯ นั้น ก็เขียนไว้ใน Twitter ของตนเองว่า "เมื่อวานนี้ได้รับสิทธิทำลอตเตอรี่ในอูกานดาเพื่อนำรายได้มาคัดเด็กเก่งๆ ส่งไปเรียนต่างประเทศบางคนก็จะส่งมาเรียนในไทย รวมทั้งส่งเสริมฟุตบอลด้วย" ในขณะที่ Twitter ของนายกฯ ปัจจุบัน ก็เขียนไว้ว่า "เปิดตัวเว็บไซต์ประจำตัวนายกรัฐมนตรีไทย และเพิ่มช่องทางสื่อสารใหม่ของประชาชนผ่านทาง " ซึ่งเชื่อว่านักข่าวก็ติดตาม Twitter ของบุคคลทั้งสอง เพื่อที่จะได้เผยแพร่นำข้อมูลเหล่านี้ไปเผยแพร่ผ่านทางสื่อมวลชนอีกต่อไป
ประการที่สอง นอกจากจะเป็นสื่อในการส่งข้อความแล้ว เรายังสามารถใช้เว็บสังคมออนไลน์เป็นที่ที่แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเกี่ยวกับองค์กรที่เราทำงาน เกี่ยวกับสินค้าหรือบริการที่เราใช้ หรือเกี่ยวกับการเมือง ผมเองลองพิมพ์ค้นหาคำว่า Abhisit ลงไปใน Twitter ก็จะเจอความเห็นใน Twitter ของประชาชนทั่วๆ ไปทั้งในเชิงบวกและลบเกี่ยวกับนโยบายและกิจกรรมของท่านนายกฯ หรือพอพิมพ์คำว่า McDonald ลงไปใน Twitter ก็จะเจอความเห็นเกี่ยวกับสินค้าของ McDonald อยู่เต็มไปหมด ดังนั้น ถ้าใช้ให้ดีๆ แล้วสังคมออนไลน์เหล่านี้ จะกลายเป็นช่องทางในการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับสินค้าและบริการต่างๆ ซึ่งไม่ช้าไม่นาน องค์กรต่างๆ ก็คงต้องหาคนมาคอยเฝ้าเว็บสังคมออนไลน์เหล่านี้ เพื่อคอยสืบและติดตามข่าวเกี่ยวกับองค์กรตนเอง
นอกจากจะใช้เว็บเหล่านี้เป็นช่องทางในการวิจารณ์ชาวบ้านเขาแล้ว เมื่อองค์กรของตนเองมีข่าวหรือกิจกรรมอะไรที่น่าสนใจ เราก็สามารถใช้เว็บเหล่านี้เป็นกลไกในการประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ข่าวสารดีๆ เกี่ยวกับองค์กรของตนเองไปยังบุคคลต่างๆ รอบๆ ตัวเรา ผมเองก็ใช้บริการในลักษณะนี้บ่อยๆ เวลาหลักสูตรที่ดูแลจะรับสมัครนิสิตรุ่นใหม่ ก็จะใช้ FB เป็นกลไกในการประกาศรับสมัครนิสิต หรืออย่างที่คณะบัญชี จุฬาฯ จะจัดสัมมนา Management Cockpit ในวันพฤหัสที่จะถึงนี้ ผมก็ไปปล่อยข่าวไว้ทั้งใน FB และ Twitter ของตนเอง (สนใจก็โทรไปสอบถามได้ที่ 0-2218-5867) ซึ่งก็ดูเหมือนว่าจะได้ผลดีครับ
บางองค์กรยังใช้ FB และ Twitter เป็นเครื่องมือในการตอบคำถาม หรือข้อข้องใจของลูกค้าเกี่ยวกับข้อร้องเรียนเกี่ยวกับสินค้าและบริการต่างๆ โดยจะมีพนักงานคนหนึ่งทำหน้าที่ในการติดตามข่าวสารหรือข้อร้องเรียน เสียงโวยวายต่างๆ ที่ปรากฏใน FB และ Twitter และทำหน้าที่ในการชี้แจงข้อมูล ข้อเท็จจริงต่างๆ รวมทั้งตอบคำถามที่ปรากฏอยู่ในเว็บสังคมออนไลน์เหล่านี้ จริงๆ แล้ว ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องมีคนใดคนหนึ่งทำหน้าที่ติดตาม ข้อมูลข่าวสารบนเว็บสังคมออนไลน์เท่านั้น แต่อาจจะเป็นหน้าที่ของพนักงานทุกคนเลยก็ได้ครับ ว่า ถ้าเจอข้อวิพากษ์วิจารณ์เหล่านี้ปรากฏขึ้นเมื่อไร ก็จะต้องทำหน้าที่ในการตอบและชี้แจงทันทีไม่ต้องรอให้คนที่รับผิดชอบเป็นคนคอยมาตอบและดูแลเท่านั้น
ปัจจุบันในเมืองไทยนั้น Twitter กำลังเป็นที่นิยมกันในระดับหนึ่ง (และเริ่มมากขึ้นหลังกลายเป็นสมรภูมิระหว่างผู้นำประเทศในปัจจุบันและอดีตผู้นำประเทศ) แต่ที่กำลังฮิตๆ กันมากก็หนีไม่พ้น Facebook ที่ในอดีตเว็บในลักษณะนี้ เป็นแหล่งชุมนุมของวัยรุ่น (Hi 5 เป็นต้น) แต่พอมาเป็น Facebook แล้วปรากฏว่ากลุ่มที่ไม่ใช่วัยรุ่นจะหันมาใช้และเล่นกันมากขึ้น มีงานวิจัยในอังกฤษที่ชี้ให้เห็นว่าวัยรุ่นในอังกฤษได้เริ่มลดความสนใจในเว็บ Social Networking ลงไป เหมือนกับว่าเว็บ Social Networking เหล่านี้ เริ่มถึงจุดอิ่มตัวสำหรับวัยรุ่น แต่ถ้าเป็นวัยผู้ใหญ่ กลับตอบรับต่อ Facebook ด้วยดี ซึ่งก็คล้ายๆ ในไทยที่ปัจจุบันเห็นวัยผู้ใหญ่หันมาเล่น และใช้ Facebook กันมากขึ้น
อย่างไรก็ดี เราคงต้องหาทางใช้เว็บเหล่านี้ให้เป็นประโยชน์บ้างนะครับ ไม่ใช่เป็นสถานที่บ่น ระบายอารมณ์ หรือเป็นที่หยอดคำหวานๆ ของชายหนุ่ม (ลูกศิษย์คนหนึ่งของผมเพิ่งเขียนลงไปใน FB ว่า "นานแค่ไหนแล้ว ที่เราไม่ได้ออกไปมองท้องฟ้ายามค่ำคืน" ทั้งๆ ที่เป็นตอนบ่าย) หรือแม้กระทั่งสถานที่เล่นเกมและแบบทดสอบแหล่งใหม่ เพื่อหาคำตอบว่าตัวเองเป็นคนอย่างไรหรือชอบอะไร
ข้อดีของ Social Network
-สามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลความรู้ในสิ่งที่สนใจร่วมกันได้
-เป็นคลังข้อมูลความรู้ขนาดย่อมเพราะเราสามารถเสนอและแสดงความคิดเห็น แลกเปลี่ยนความรู้ หรือตั้งคำถามในเรื่องต่างๆ เพื่อให้บุคคลอื่นที่สนใจหรือมีคำตอบได้ช่วยกันตอบ
-ประหยัดค่าใช้จ่ายในการติดต่อสื่อสารกับคนอื่น สะดวกและรวดเร็ว
-เป็นสื่อในการนำเสนอผลงานของตัวเอง เช่น งานเขียน รูปภาพ วีดิโอต่างๆ เพื่อให้ผู้อื่นได้เข้ามารับชมและแสดงความคิดเห็น
-ใช้เป็นสื่อในการโฆษณา ประชาสัมพันธ์ หรือบริการลูกค้าสำหรับบริษัทและองค์กรต่างๆ ช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้ลูกค้า
-ช่วยสร้างผลงานและรายได้ให้แก่ผู้ใช้งาน เกิดการจ้างงานแบบใหม่ๆ ขึ้น
ข้อเสียของ Social Network
-เป็นช่องทางในการถูกละเมิดลิขสิทธิ์ ขโมยผลงาน หรือถูกแอบอ้าง เพราะ Social Network 3Service เป็นสื่อในการเผยแพร่ผลงาน รูปภาพต่างๆ ของเราให้บุคคลอื่นได้ดูและแสดงความคิดเห็น
-ข้อมูลที่ต้องกรอกเพื่อสมัครสมาชิกและแสดงบนเว็บไซต์ในรูปแบบ Social Network ยากแก่การตรวจสอบว่าจริงหรือไม่ ดังนั้นอาจเกิดปัญหาเกี่ยวกับเว็บไซต์ที่กำหนดอายุการสมัครสมาชิก หรือการถูกหลอกโดยบุคคลที่ไม่มีตัวตนได้
-เป็นช่องทางในการถูกละเมิดลิขสิทธิ์ ขโมยผลงาน หรือถูกแอบอ้าง เพราะ Social Network -Service เป็นสื่อในการเผยแพร่ผลงาน รูปภาพต่างๆ ของเราให้บุคคลอื่นได้ดูและแสดงความคิดเห็น

ที่มา : รศ.ดร.พสุ เดชะรินทร์ คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย pasu@acc.chula.ac.th กรุงเทพธุรกิจ วันอังคารที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2552
การใช้งานระบบเครือข่ายสังคม (Social Network)
ขอนำข้อแนะนำที่ดีของทางทรูเกี่ยวกับการใช้งานในระบบเครือข่ายสังคมเพื่อเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆพนักงานเครือซีพี มีข้อแนะนำอะไรบ้างลองดู
ด้วยปรากฏว่าปัจจุบันมีพนักงานใช้ระบบเครือข่ายสังคม (
Social Network) เพื่อสื่อสารข้อมูลอย่างแพร่หลาย ซึ่งข้อมูลที่ส่งในระบบเครือข่ายสังคม (Social Network) ถือเป็นการสื่อสารในที่สาธารณะด้วยเช่นกัน ดังนั้นพนักงานผู้ที่ใช้ระบบเครือข่ายสังคม (Social Network) จึงต้องใช้วิจารณญาณอย่างรอบคอบในการส่งข้อมูลเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการเผยแพร่ข้อมูลความลับทางธุรกิจ หรือส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของบริษัทฯ จึงมีข้อห้ามและข้อแนะนำในการใช้ระบบเครือข่ายสังคม (Social Network) ดังต่อไปนี้
ข้อห้ามในการใช้ Social Network
1. เพื่อนพนักงานอย่านำข้อมูลภายในของบริษัทไปเผยแพร่บนระบบเครือข่ายสังคม (
Social Network) ไม่ว่าในลักษณะใด ข้อมูลภายในบริษัทไม่ควรเปิดเผยสู่ภายนอก เพราะอาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดหรือคลาดเคลื่อนได้ และอาจส่งผลกระทบที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่บริษัท
2. เพื่อนพนักงานอย่าใช้
e-mail ของบริษัทสมัครใช้งานระบบเครือข่ายสังคม (Social Network) รวมถึงอย่าใช้รหัสเดียวกันกับระบบต่างๆ ที่ใช้งานในบริษัทฯ ด้วย เนื่องจากเป็นการเพิ่มโอกาสในการเข้าถึง e-mail และระบบต่างๆ ของบริษัทฯ จากภายนอกได้
ข้อแนะนำในการใช้
Social Network
1. ใช้ข้อความที่สุภาพ ไม่หยาบคาย ไม่ใช้ข้อความที่พาดพิงอันก่อให้เกิดความเสียหายต่อผู้อื่นเนื่องจากข้อความเหล่านี้อาจถูกเผยแพร่ออกไปบนอินเทอร์เน็ต และอาจส่งผลเสียต่อท่านในภายหลัง
2. ไม่ควรเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวของท่านมากเกินไป เช่น วัน เดือน ปีเกิด
, ที่อยู่, หมายเลขโทรศัพท์จนอาจเป็นช่องทางให้มีการนำข้อมูลดังกล่าวไปใช้ในทางที่ไม่พึงประสงค์
3. หลีกเลี่ยงการใช้รหัสผ่านเดียวกันทั้ง Social Network และ e-mail ส่วนตัวของท่าน อันเป็นการเพิ่มโอกาสในการสูญเสียข้อมูล และความเป็นส่วนตัวของท่าน รวมถึงควรตั้งรหัสผ่านที่มีความปลอดภัยอย่างเพียงพอ และคาดเดาได้ยาก
4. ในกรณีที่จำรหัสผ่านไม่ได้ ท่านสามารถตั้งรหัสผ่านใหม่โดยใช้
e-mail ที่ใช้สมัคร ดังนั้นต้องรักษารหัสผ่าน e-mail ของท่านเป็นความลับเสมอ
5.
Logout จาก Social Network ทุกครั้งที่เลิกใช้งาน และล็อกหน้าจอทุกครั้งที่ท่านไม่อยู่ที่หน้าเครื่องคอมพิวเตอร์ เพื่อป้องกันการใช้บัญชีของท่านโดยบุคคลอื่น
6. ควรพิจารณาการรับผู้อื่นเป็นเพื่อนอย่างรอบคอบ เนื่องจากบุคคลเหล่านั้นสามารถทราบความเคลื่อนไหว สังคม เครือข่ายทั้งหมดของท่านได้ ซึ่งหากเป็นบุคคลที่เกี่ยวข้องกับทางธุรกิจ อาจทำให้ท่านสูญเสียความน่าเชื่อถือได้จากการโพสต์ข้อความที่ไม่เหมาะสม
7. ควรปรับแต่งการตั้งค่าความเป็นส่วนตัวอย่างเหมาะสม โดยพิจารณาว่าข้อมูลใดควรเปิดเผยให้ผู้ใด หรือข้อมูลใดไม่ควรเปิดเผยให้ผู้ใด รวมถึงอ่านคำแนะนำจากโปรแกรมต่างๆ บน
Social Network ทุกครั้ง เนื่องจากโปรแกรมเหล่านั้นอาจเข้าถึง และนำข้อมูลส่วนตัวของท่านไปเปิดเผยได้
8. หลีกเลี่ยงการคลิกลิ้งค์ที่ถูกย่อ เช่น http://tinyurl.com/ หรือ http://bit.ly/ ซึ่งอาจเป็นมัลแวร์หรือฟิชชิ่ง อันเป็นโปรแกรมที่ไม่พึงประสงค์ โดยอาจลองแปลงกลับโดยใช้ http://longurl.org/ เพื่อตรวจลิ้งค์นั้นๆ ก่อน

เว็บไซต์ที่ให้บริการ

  1. MySpace.com   2. FaceBook.com   3. Orkut.com    4. Hi5.com
  5. Vkontakte.ru     6. Friendster.com    7. SkyRock.com                
             8. PerfSpot.com    9. Bebo.com          10. Studivz.net

คำแนะนำ และมารยาทในการใช้เวบบอร์ด
1.ไม่เสนอข้อความที่พาดพิง หรือหมิ่นต่อสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.ใช้ถ้อยคำที่สุภาพไม่ใช้ข้อความ และรูปภาพที่ส่อไปในทางลามกอนาจาร ท้าทาย หรือยุยงส่งเสริมให้เกิดการเข้าใจผิด อันจะนำไปสู่การทะเลาะเบาะแว้ง และไม่เสนอข้อความที่เกี่ยวข้องกับสิ่งผิดกฎหมาย
3.ไม่เสนอข้อความที่ใส่ร้ายผู้อื่น หมิ่นประมาท หรือนำข้อมูลส่วนตัวของผู้อื่นมาเผยแพร่
4.ระมัดระวัง ไม่ตั้งกระทู้ที่ซ้ำซ้อนกับกระทู้ที่ตั้งมาก่อนแล้ว และไม่ตั้งผิดกลุ่ม ผิดเป้าหมายของเวบ บอร์ดนั้นๆ
5.ไม่ควรใส่เบอร์โทรศัพท์ในการติดต่อกับบุคคลอื่น ให้ใส่เบอร์อีเมล์ หรือ Icq แทน

6.เปิดใจให้กว้าง เคารพ และยินดีรับฟังทุกความคิดเห็นของผู้อื่น หากพบข้อความที่ส่อไปในทางชวนทะเลาะ ไม่ควรโต้ตอบ
7.ไม่ใช้นามแฝง หรือชื่อจริงของผู้อื่นโดยเจตนา ซึ่งอาจจะส่งผลให้เกิดการเข้าใจผิดต่อการเป็นเจ้าของข้อความนั้น และอาจทำให้เจ้าของชื่อได้รับความเสื่อมเสีย

ข้อดีของการใช้ Webboard
    *  เป็นช่องทางในการติดต่อ ประกาศข่าวสาร ข้อมูล และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้
    * ทำให้เกิดสังคม ในการสนทนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน ระหว่างกลุ่มผู้เยี่ยมชม
    * ผู้พัฒนาโฮมเพจ สามารถใช้เป็นช่องทางในการ ประกาศข่าวใหม่ๆ แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้อื่นได้
    * ง่ายในการใช้งาน แม้จะเป็นผู้เริ่มต้น เมื่อเทียบกับการใช้ Mailing list หรือ News Group

 ข้อดีของการใช้ Webboard    * ไม่จำเป็นต้องมีความรู้เกี่ยวกับการเขียนโปรแกรม CGI script
    * ไม่จำเป็นต้องติดตั้งโปรแกรม CGI script ใน Server เอง
    * สามารถนำไปใช้ได้ แม้ว่า Server ของคุณจะไม่อนุญาตให้ติดตั้ง CGI script ได้เอง
    * สามารถกำหนดรูปแบบ ของหน้าต่างๆ ของ WebBoard ของคุณได้เอง โดยผ่านระบบการจัดการที่เตรียมไว้ให้
    * สามารถใช้ HTML code แตกหน้าตา หน้าต่างๆของ WebBoard ของคุณได้ (รวมถึง Java และ Javascript ด้วยเช่นกัน)
    * สามารถลบ และแก้ไข ข้อความ ที่มีผู้มาลงไว้ใน WebBoard ได้
    * สามารถใช้งานได้ ฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้นด้วยเวลาไม่ถึง 3 นาที ในการกรอกแบบฟอร์ม สมัครเป็นสมาชิก คุณก็สามารถ นำ WebBoard ของคุณไปใช้งาน ในโฮมเพจหรือเวปไซต์ ของคุณได้ทันที
    * และอื่นๆ...


เว็บไซต์ที่ที่ให้บริการเว็บบอร์ด
http://www.pantip.com
http://www.kapook.com
http://www.sanook.com
http://www.teenee.com
ความหมาย msn chat
คือ โปรแกรมที่ใช้ในการสนทนา MSN Messenger หรือที่ เราชอบเรียกกันว่า msn มันก็คือ โปรแกรมส่งข้อความข้าม ระบบเน็ทเวิร์ค แบบทันทีทันใด หรือภาษาฝรั่งเรียกว่า IM (Instant Messenger) ถ้าคุณเคยเล่นโปรแกรม ICQ IRC หรือ Pirch ก็เข้าข่ายเป็นโปรแกรมพวกเดียวกัน
ที่มา : http://jutharat.blogspot.com/2006/12/msn.html
 โปรแกรม Chat บนไซเบอร์อีกรูปแบบหนึ่งที่เราสามารถพูดคุยกับเพื่อนระหว่าง ประเทศและในประเทศได้ โปรแกรมนี้พัฒนามาจาก เว็บ Hotmail ที่อยากให้ผู้คนได้พูดคุย ผ่านทางอินเตอร์เน็ทมากขึ้น โปรแกรมนี้จัดว่าเป็นโปรแกรมยอดนิยมที่สุดในตอนนี้ก็ว่าได้ เพราะเป็นโปรแกรมที่ใช้ในการติดต่อสื่อสารมากมาย โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆนั่นเอง
ที่มา : http://www.dek-ac.com/knowledge87

ประโยชน์ของการใช้โปรแกรม  msn chat
- ใช้ในการติดต่อสื่อสารระหว่างบุคคล 2 คน หรือแบบกลุ่มก็ได้
- ใช้การวีดีโอลิ้งในการประชุมหรือสัมนาต่างๆผ่าน net
-สามารถส่งเอกสารต่างๆไม่่ว่าจะเป็นไฟล์ word,pdf หรือไฟล์นามสกุลอื่นๆ
-ใช้ในการติดต่อสื่อสารทางธุรกิจ
-สามารถติดต่อทางไกลได้เร็ว
-ไม่เสียค่าใช้จ่าย
-เป็นโปรแกรมที่ให้ใช้งานได้ฟรี
ที่มา : http://www.dek-ac.com/knowledge87

การใช้งาน
1.                  ทำการสมัครสมาชิกที่เว็บ hotmail.com
2.                  ทำการโหลดโปรแกรม msn ที่เว็บ http://loadmsn.wordpress.com หรือ http://download.msn.in.th
3.                  ทำการติดตั้งโปรแกรมลงเครื่องคอมพิวเตอร์ของเรา
4.                  เมื่อติดตั้งเสร็จทำการเปิดโปรแกรมขึ้นมา จะขึ้นหน้าต่างแบบภาพด้านล่าง
5.ทำการใส่ user และ password ตามที่ได้สมัครไว้ตามข้อที่ 1
6.เมื่อเข้าระบบได้แล้วให้ทำการเพิ่มเพื่อนผู้ติดต่อ ดังภาพ
7. เมื่อเพิ่มชื่อเพื่อนหรือผู้ติดต่อเสร็จ หากเพื่อคุณออนไลน์อยู่ก็สามารถคุยได้เลยนะ
บทความโดย : www.dek-ac.com

การนำไปใช้
เราสามารถทำการติด Chat Box นี้ไว้หน้าเว็บของเราเพื่อให้ผู้เยี่ยมชมเว็บเรา หรือต้องการติดต่อซื้อสินค้า หรือ Support ดูแลต่างๆ หรือไว้คุยกับเพื่อนกับฝูง หรือผู้เข้าชมเว็บ สามารถสนทนากับเราผ่าน MSN ของเราได้โดยทันที แบบ Realtime ไม่ต้องติดตั้งโปรแกรม Windows Live Messenger หรือ MSN ลงบนเครื่องเพื่อสนทนากับเราเพียงแค่เปิดเว็บก็คุย MSN กับเราได้แล้วครับ
น่าสนใจมากทีเดียวเลยใช่ไหมครับ เรามาดูวิธีการกันครับ

1. เราต้องเป็นสมาชิก และมี MSN Account อยู่แล้วนะครับ หากยังไม่มี
—- 1. สมัครสมาชิกเปิดขอใช้บริการอีเมลจาก hotmail.com
——– http://www.hotmail.com
—- 2. หรือทำ อีเมลของเราภายใต้@โดเมนของเรา ให้เล่น MSN ได้
2. เมื่อเรามี Account ของ Hotmail แล้วไม่ว่าจะ ใช้บริการอีเมลภาย ใต้ @hotmail หรือภายใต้ @domain ของเรา
2.1 ให้เปิดเว็บไซต์ http://settings.messenger.live.com/Applications/Default.aspx
2.2 คลิกเมนูการตั้งค่าเว็บ” (Web Settings)
—– ติ๊กอนุญาตให้เว็บไซต์สามารถมองเห็นสถานะของ Messenger ของคุณ และส่งข้อความถึงคุณได้
—– (Allow websites to see your Messenger status and send you messages)
—– กดบันทึก (Save)
2.3 สร้าง (HTMLCreate HTML)
—– ให้เลือกปรับขนาดและสีตามใจชอบได้เลยครับ
โดยบริการนี้จะมีให้เราเลือกสามส่วนคือ
หน้าต่าง IM (IM Window) สำหรับให้ระบบสร้าง Code หน้าต่าง MSN ให้เราไปติดเว็บครับ
ปุ๋ม (Button) สำหรับสร้างปุ๋มไว้ให้เราติดหน้าเว็บ
ไอคอนสถานะ(Status icon) สำหรับแสดง icon สถานะออนไลย์ของเราครับ
หลังจากนั้นให้นำ Code ที่ได้ด้านล่างมาแปะ ในหน้าเว็บที่เราต้องการ
แค่นี้เราก็มี live chat ไว้ให้ใครต่อใครคุย MSN กับเราได้สบายๆ และครับ
ลองดูและนำไปประยุคใช้กันดูนะครับ
สำหรับการเปลี่ยนภาษาที่แสดงหน้าต่างที่ไปติดบนเว็บเรานะครับ
หากจะให้เป็นภาษาไทยแก้ messenger.live.com&mkt=th-TH
ภาษาอังกฤษใส่ messenger.live.com&mkt=en-US
หวังว่าบทควานี้จะเป็นประโยชน์และถูกใจกันนะครับ
ใครลองนำไปปรับใช้อย่าลืมนำมาให้ชมผลงานบ้างนะครับ
เดี่ยวไว้ฉบับหน้าผมจะมาเขียนวิธีทำ Icon แสดงสถานะ Online บทหน้าเว็บโดยไม่ต้องพึ่ง ตัวแสดงสถานะของ hotmail ที่มีให้กันครับ
พบปัญหาเกี่ยวกับบทความหรือต้องการสอบถามเพิ่มเติมได้
ที่มา: http://www.select2web.com/other/msn-on-web.html

เว็บไซต์ที่ให้บริการ msn chat
www.kapook.com    Kapook MSN Messenger Guide

ความหมาย  youtube
         YouTube   คือ   เป็นเว็บไซต์แลกเปลี่ยนภาพวิดีโอที่มีชื่อเสียงมากที่สุด ที่สำคัญทุกอย่างที่นี่ฟรี โดยในเว็บไซต์นี้ ผู้ใช้สามารถใส่ภาพวิดีโอเข้าไป เปิดดูภาพวิดีโอที่มีอยู่ และแบ่งภาพวิดีโอ เหล่านี้ให้คนอื่นดูได้ด้วย
        YouTube ก่อตั้งขึ้นเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2005 โดยอดีตพนักงานของ PayPal สามคนด้วยกัน (ปัจจุบัน PayPal ถูก eBay ซึ้อไปเรียบร้อยแล้ว) ใน YouTube จะมีบริการแสดงภาพวิดีโอซึ่งอาศัยเทคโนโลยีของ Adobe Flash ในการแสดงภาพวิดีโอ (Adobe Flash หรือที่หลายๆ คนรู้จักในชื่อของ Macromedia Flash หรือ Flash (แฟลช) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่นิยมมาก ในการทำภาพแอนิเมชั่นและการทำโปรแกรมเล็กๆ ที่ใช้สร้างปฏิสัมพันธ์กับผู้เข้าชมเว็บ โดยมีซอฟต์แวร์ ระบบ และอุปกรณ์หลายชนิดที่สามารถสร้างแฟลชและแสดงแฟลชได้ แฟลชจึงสามารถนำไปใช้งานได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นสร้างแอนิเมชั่น โฆษณา สร้างส่วนประกอบของหน้าเว็บ รวมภาพวิดีโอเข้าไปในหน้าเว็บ รวมถึงการสร้างพอร์ทัล)
        ใน YouTube จะมีข้อมูลเนื้อหารวมถึงคลิปภาพยนตร์สั้นๆ และคลิปที่มาจากรายการโทรทัศน์ มิวสิกวิดีโอ และวิดีโอบล็อกกิ้งซึ่งเป็นการสร้างบล็อกโดยมีส่วนของข้อมูลที่เป็นภาพ วิดีโอเป็นส่วนประกอบด้วย โดยเฉพาะเป็นภาพวิดีโอที่เกิดจากมือสมัครเล่นถ่ายกันเอง) ปัจจุบัน YouTube มีพนักงานเพียง 67 คนเท่านั้น
        YouTube เติบโตอย่างรวดเร็วในช่วงระยะเวลาสั้นๆ และได้รับความ สนใจเป็นอันมาก โดยเฉพาะการบอกแบบปากต่อปากที่ทำให้การเติบโตของ YouTube เป็นไป อย่างรวดเร็วมากจริงๆ YouTube มาเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายต่อเนื่อง เมื่อมีการนำภาพวิดีโอช่วง Lazy Sunday ของรายการ Saturday Night Live มาแสดงบนเว็บ ซึ่งต่อมาเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ทางสถานีโทรทัศน์เอ็นบีซี (NBC) ก็ได้เรียกร้องให้ทาง YouTube เอาคลิปวิดีโอที่มีลิขสิทธิ์ทั้งหลายออกจากเว็บ ซึ่ง YouTube เองก็มีนโยบายที่จะไม่เอาคลิปที่ละเมิดลิขสิทธิ์มาแสดงเช่นกัน นั่นทำให้ต่อมา You Tube กำหนดนโยบายที่ชัดเจนขึ้นในเรื่องนี้ โดยกำหนดให้คลิปวิดีโอมีความยาวสูงสุดเพียงแค่ 10 นาทีเท่านั้นยกเว้นเป็นคลิปที่มีหลักฐานว่าสร้างขึ้นจากคนทำภาพยนตร์มือ สมัครเล่นเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้ YouTube ก็หาทาง ออกโดยการแบ่งภาพวิดีโอของตนเป็นชิ้นย่อยๆ แต่ละชิ้นยาวน้อยกว่า 10 นาทีแทน
            อย่างไรก็ตาม กรณีพิพาทกับสถานีโทรทัศน์เอ็นบีซีก็ทำให้ YouTube เป็นข่าวและเพิ่มความดังมากขึ้นไปอีก และต่อมาเอ็นบีซีก็เห็นถึงประสิทธิภาพของ YouTube และตัดสินใจ ดำเนินยุทธศาสตร์ที่ต่างไปจากเดิม โดยประกาศให้ YouTube เป็นพันธมิตรทางยุทธศาสตร์แทน โดย YouTube จะเป็นคนโฆษณารายการของเอ็นบีซีในรูปของวิดีโอคลิปในเว็บของ YouTube เช่นเดียวกับสถานีโทรทัศน์ซีบีเอส (CBS) ที่เริ่มต้นเหมือนกับเอ็นบีซีและเลือกลงท้ายเหมือนกับเอ็นบีซีเช่นเดียวกัน
            เดือน สิงหาคมที่ผ่านมา YouTube ประกาศว่าภายใน 18 เดือนข้างหน้านี้ พวกเขา จะสามารถเปิดให้เข้ามาดูมิวสิกวิดีโอทุกเพลงที่เคยสร้างขึ้นมาได้ และแน่นอน ทุกอย่างฟรีหมด โดยวอร์เนอร์มิวสิค (Warner Music) และอีเอ็ม ไอ (EMI) ได้ยืนยันแล้วว่าพวกเขาเป็นหนึ่งในบริษัทที่กำลังเจรจาในรายละเอียดกับ YouTube อยู่ และเดือนกันยายนที่ผ่านมา วอร์เนอร์มิวสิก และ YouTube ก็ได้เจรจาข้อตกลงที่ YouTube จะเป็นที่เก็บมิวสิกวิดีโอทุกเพลงที่วอร์เนอร์มิวสิค ผลิตขึ้นมา โดยพวกเขาจะแบ่งรายได้จากโฆษณา กัน นอกจากนี้ใครก็ตามที่สร้างคลิปวิดีโอเพื่อแสดงบน YouTube ก็สามารถนำเพลงของวอร์เนอร์มาใช้เป็นซาวด์แทร็กต์ได้ โดยไม่ถือว่าละเมิดลิขสิทธิ์แต่อย่างใด
            9 ตุลาคมที่ผ่านมา ซีบีเอสรวมถึงยูเอ็มจี (UMG-Universal Music Group) และโซนี่บีเอ็มจี (Sony BMG) ก็ตัดสินใจที่จะแสดงงานของตนบน YouTube เช่นกัน
ความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นทันที เมื่อกูเกิ้ล ประกาศเมื่อวันที่ 9 ตุลาคมที่ผ่านมา ว่าตกลงตัดสินใจเข้าซื้อ YouTube ด้วยมูลค่า 1,650 ล้านเหรียญสหรัฐ ในรูปแบบของการแลกเปลี่ยนหุ้น อย่างไรก็ตาม YouTube ก็ยังคงดำเนินกิจกรรม ของบริษัทไปตามปกติ โดยเป็นอิสระจากการควบคุมของกูเกิ้ล โดยกูเกิ้ลมองว่า YouTube เป็นชุมชนออนไลน์ทางด้านวิดีโอเพื่อความบันเทิง ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดและมีการเติบโตรวดเร็วที่สุด ในขณะที่กูเกิ้ลมองตัวเองว่าเป็นบริษัทที่เชี่ยวชาญ ทางด้านการจัดการข้อมูลสารสนเทศ และการสร้างโมเดลใหม่ทางด้านการโฆษณาบนอินเทอร์เน็ต การรวมกันของสองบริษัทนี้จะมุ่งเน้นไปที่การเพิ่มประสบการณ์ที่ดีขึ้นและ เข้าใจได้มากขึ้น สำหรับผู้ใช้ที่สนใจในการอัพโหลด การดูวิดีโอ และการแชร์ภาพวิดีโอ รวมถึงการนำเสนอโอกาสใหม่ๆ สำหรับผู้เป็นเจ้าของ ข้อมูล (Content) ที่เป็นมืออาชีพที่จะนำเสนองานของพวกเขาไปสู่คนวงกว้าง
             เมื่อ มองถึงโมเดลการสร้างรายได้ของ YouTube นั้นโมเดลธุรกิจของ YouTube จะอาศัยการโฆษณาเป็นหลัก นักวิเคราะห์ทางอุตสาหกรรม บางคนเห็นว่า YouTube มีค่าใช้จ่ายด้านการบริหารงาน (running cost) โดยเฉพาะอย่างยิ่ง YouTube ต้องการใช้แบนด์วิธซึ่งอาจจะมีค่าใช้จ่ายสูงถึง 1 ล้านเหรียญสหรัฐต่อเดือน ดังนั้นจึงทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์ต่อตัวบริษัทในทำนองว่าจะเหมือนๆ กับบริษัทที่เพิ่งเริ่มต้นธุรกิจบนอินเทอร์เน็ต หลายๆ แห่ง ที่ไม่มีโมเดลธุรกิจใดที่สามารถใช้งานได้ การใช้โฆษณาเริ่มเข้าปรากฏชัดเจนบนเว็บไซต์ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2006 ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา YouTube ได้เริ่มใช้ Google AdSense ซึ่งเป็นโปรแกรมบริหารจัดการโดยกูเกิ้ลในการคำนวณรายได้จากโฆษณาที่ปรากฏใน เว็บไซต์นั้นๆ แต่ YouTube สุดท้ายก็หยุดใช้ AdSense ในที่สุด นักวิเคราะห์บางคนคิดคำนวณว่า YouTube อาจจะมีรายได้มากถึงหลายล้านเหรียญสหรัฐต่อเดือน ซึ่งก็จะทำให้ YouTube สามารถสร้างรายได้สุทธิได้มากมายในแต่ละเดือน
          แต่เมื่อกูเกิ้ลเข้า มาซื้อ YouTube ไป การเปลี่ยนแปลงจะต้องเกิดขึ้นกับ YouTube อย่างแน่นอน ในอนาคตอันใกล้แม้จะมีการออกมาบอกว่า YouTube จะได้รับอิสระในการบริหารจัดการก็ตามที แน่นอนว่าระบบการจัดการรายได้ โดยเฉพาะการกำหนดโมเดลการสร้างรายได้ใหม่ๆ ในเว็บไซต์ของ YouTube จะต้องเกิดขึ้น แต่ที่เราพอจะวางใจได้ในฐานะคนใช้งานและคนใช้บริการเว็บไซต์ YouTube ก็คือ ทุกอย่างน่าจะยังคงฟรีต่อไปอีก เพราะที่ผ่านมาการให้บริการของกูเกิ้ลก็เป็นในลักษณะให้บริการฟรีเกือบทั้ง สิ้น โดยเฉพาะการสร้างโมเดลธุรกิจที่อิงกับการอาศัยของฟรีเป็นตัวกำหนดตลอดมา
           เมื่อ มองถึงวงการบันเทิง การที่กูเกิ้ลเข้าครอบครอง YouTube จะเป็นการเพิ่มช่องทางในการแข่งขันในธุรกิจบันเทิงที่สำคัญยิ่ง ที่ผ่านมาจะเห็นการเริ่มเคลื่อนไหวที่ชัดเจนของยักษ์ใหญ่ในวงการอินเทอร์ เน็ตในการเปิดให้บริการภาพยนตร์รวมถึงรายการโทรทัศน์ผ่านทางอินเทอร์เน็ตที่ เริ่มจะเข้มข้นมากขึ้นเรื่อยๆ การประกาศเข้าเทกโอเวอร์ของกูเกิ้ลครั้งนี้จึงเป็นจิ๊กซอว์ที่เข้ามาเติม เต็มการวาดภาพอนาคตของกูเกิ้ลในวงการบันเทิงที่ให้ภาพที่ชัดเจนยิ่งขึ้น ความเคลื่อนไหวในการแย่งชิงส่วนแบ่งตลาดสินค้าบันเทิง ไม่ว่าจะเป็นเพลง ภาพยนตร์ และรายการโทรทัศน์ ที่มีบริษัทในวงการอินเทอร์เน็ตเข้าไปเกี่ยวข้องแบบเกาะติดมากขึ้นจึงดุ เดือดเลือดพล่านในระดับที่คนเฝ้าดูอย่างเราๆ ไม่สามารถกระพริบตาได้ สิ่งที่จะต้องมองต่อไปก็คือ คู่แข่งของกูเกิ้ล จะว่าอย่างไรบ้าง ไม่ว่าจะเป็นคู่แข่งในธุรกิจอินเทอร์เน็ตด้วยกันเอง ไม่ว่าจะเป็นยาฮูและไมโครซอฟท์ แต่ยังรวมถึงคู่แข่งรายอื่นๆ อย่างในวงการมือถือและวงการสื่อสารมวลชน เป็นต้น
             กูเกิ้ลชิงความได้ เปรียบครั้งสำคัญโดยเฉพาะการเข้าครอบครองกิจการ YouTube ที่จะเป็นบันไดสำคัญในการเพิ่มส่วนแบ่งในตลาดบันเทิงในอนาคต YouTube ที่มีการเติบโตอย่าง รวดเร็วด้วยโมเดลธุรกิจที่เหมือนกับการสร้างทำโฮมวิดีโอในสมัยก่อนแต่อาศัย ช่องทางอินเทอร์เน็ตในการสร้างความนิยมอย่างรวดเร็ว กูเกิ้ลและ YouTube จึงเป็นการจับคู่ทางธุรกิจที่น่าสนใจที่สุดคู่หนึ่งในปีนี้ และจะมีผลต่อการเปลี่ยนแปลง เชิงโครงสร้างของวงการบันเทิงในอนาคตอย่างแน่นอน

             ผู้ใช้อินเทอร์ เน็ตบรอดแบนด์ส่วนใหญ่จะรู้จัก และชื่นชอบเว็บไซต์รวมคลิปวิดีโออย่าง YouTube ซึ่งก่อนหน้านี้ นิตยสารคอมพิวเตอร์.ทูเดย์ได้จัดทำเป็นเรื่องเด่นประจำฉบับที่ 291 ปักษ์แรกเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ล่าสุดเว็บไซต์แชร์วิดีโออันดับหนึ่งของโลกได้ถูกแกะรอยสถิติโดยเว็บไซต์ หนังสือพิมพ์ วอลสตรีท เจอนัล ซึ่งทำให้ได้ข้อมูลคร่าวๆ ว่า ขนาดของฮาร์ดดิสก์ที่ใช้จัดเก็บวิดีโอทั้งหมดเป็นเท่าไร อัตราการเติบโต กิจกรรมของผู้ใช้ ตลอดจนคำยอดฮิตที่ใช้เป็นชื่อไตเติลวิดีโอ เราลองมาดูรายละเอียดของตัวเลขสถิติเหล่านั้นกันดีกว่า 
          - YouTube มีวิดีโอทั้งหมดมากกว่า 6 ล้านคลิป โดยอัตราการเพิ่มจำนวนคลิปวิดีโอ 20% ต่อเดือน
          - คลิปวิดีโอทั้งหมดจะต้องใช้พื้นที่ในการจัดเก็บถึง 45 เทอราไบต์ หรือเทียบเท่ากับความจุของฮาร์ดดิสก์ของคอมพิวเตอร์ตามบ้านรวมกัน 5,000 ครัวเรือน
         - หากคุณต้องการดูวิดีโอทั้งหมดใน YouTube จะต้องใช้เวลาทั้งสิ้น 9,305 ปี
         - สำหรับคอนเท็นต์ที่เปิดให้บริการจะมีค่าแบนด์วิดธ์คิดเป็นเงินหลายล้านเหรียญฯ ต่อเดือน
         - วิดีโอคลิปในเซ็คชั่น most popular จะมีเปอร์เซ็นต์ของแทรฟฟิกการเข้าชมสูงมากเป็นพิเศษ
        - คำว่า “dance”, “love”, “music” และ “girl” ถูกใช้เป็นชื่อไตเติลของวิดีโอมากที่สุ

ประโยชน์ของ youtube
       1. เป็นแหล่งเรียนรู้ที่ให้ข้อมูลต่างๆซึ่งสามารถทำความเข้าใจได้ง่าย ยกตัวอย่างเช่น การสอนการแต่งหน้า ซึ่งเป็นเทคนิคที่ทำความเข้าใจยาก ถ้าศึกษาจากหนังสือหรือนิตยสาร เราก็ไม่สามารถเห็นการลงมือปฏิบัติแต่งหน้าที่ชัดเจน เช่นการเลือกสี การลงสี และน้ำหนักหนัก-เบา แต่การศึกษาจาก youtube เราสามารถทำความเข้าใจและปฏิบัติตามได้อย่างถูกต้องเหมาะสม
       2. เป็นแหล่งรวมความบันเทิง เช่น เพลง มิวสิควิดีโอ เป็นต้น
       3. เป็นแหล่งเรียนรู้ให้ศึกษาการทดลองทางวิทยาศาสตร์จากทั่วโลก เช่น การทดลองทางด้านbiological molecular ได้แก่ การทำ PCR , พันธุวิศวกรรม เป็นต้น
       4. สามารถทำให้เราติดตามดูละคร หรือรายการทีวีย้อนหลังได้ เช่น  ละครเนื้อคู่อยากรุ้ว่าใคร

โทษของ youtube
         1. เยาวชนอาจจะนำ youtube มาใช้ในทางที่ผิด เช่น การใช้กำลังในการแก้ปัญหา แล้วถ่ายคลิปลงใน youtube ทำให้เป็นแบบอย่างที่ไม่ดีกับผู้ที่เข้ามาดูคลิปนี้
         2. เป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ เช่นการเอาหนังที่เข้าฉายในโรงภาพยนตร์มาลง youtube
           3. มีคลิปที่ไม่เหมาะสมกับเยาวชน เช่นคลิปลามากอนาจาร คลิปที่ส่อแนวไปในทางมีเพศสัมพันธ์ เป็นต้น
           4. เป็นการสร้างความเชื่อที่ผิดๆโดยการนำความนำเสนอข้อมูลที่ไม่เป็นจริง เช่น การกินเมนทอสพร้อมน้ำอัดลมทำให้เป็นอันตรายถึงชีวิตได้
               ไม่ว่าคุณจะสร้างวิดีโอวิดีโอดูหรือต้องการที่จะเป็นแบบออนไลน์ที่มีชื่อเสียง, คุณก็จะได้รับประโยชน์มากจากการใช้งานร่วมกันและการดูวิดีโอคลิป YouTube ออนไลน์ ใช่กับเว็บไซต์ YouTube, คุณสามารถดูวิดีโอออนไลน์โพสต์วิดีโอของคุณเองและอื่น ๆ ที่นี่หลายประโยชน์ของ YouTube เป็นคำอธิบายสั้น ๆ ของวิธีการที่คุณสามารถใช้ประโยชน์จากวิดีโอ YouTube คือ

ประโยชน์ : การสร้างบัญชีในเว็บไซต์ฟรี
            หากต้องการดูมากที่สุดของวิดีโอฟรีบน YouTube คุณไม่จำเป็นต้องสร้างบัญชีผู้ใช้กับเว็บไซต์ แต่ถ้าคุณวางแผนที่จะอัปโหลดวิดีโอของคุณเองก็ต้องการที่คุณลงทะเบียนกับ YouTube แรกคือ หนึ่งในผลประโยชน์ YouTube คุณจะดีใจที่จะได้ยินคือมีความเป็นอิสระในการสร้างบัญชีที่มีเว็บไซต์ ซึ่งแตกต่างจากวิดีโออื่น ๆ ร่วมกันและการอัปโหลดเว็บไซต์, YouTube ไม่คิดค่าบริการจึงสามารถโพสต์คลิปวิดีโอออนไลน์โดยไม่ต้องปลอกกระสุนออกเงิน
Benefit B : ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีเพื่อสร้างบัญชี YouTube
              บางส่วนของผลประโยชน์ของ YouTube คือความจริงที่ว่าใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีสำหรับคนที่ประสบความสำเร็จกับการเข้าสู่ระบบ YouTube ซึ่งหมายความว่าหากภารกิจของคุณคือการอัปโหลดวิดีโอและไม่ได้จริงๆในการดูวิดีโอออนไลน์บนเว็บไซต์ของคุณเท่านั้นจะต้องรอเรื่องของการนาทีและคันคุณและส่วนที่เหลือของโลกจะสามารถเห็นของคุณ โพสต์วิดีโอ
Benefit C : เว็บไซต์ที่มีเนื้อหามากมายสำหรับการดูและดาวน์โหลด
              ประโยชน์ที่สมควรจะกล่าวถึงอีกประการหนึ่งก็คือมีวิดีโอฟรีมากมายบน YouTube ไม่ว่าคุณต้องการที่จะดูตลกคลิปวิดีโอเซ็กซี่และอื่น ๆ คุณจะบ่อยกว่าไม่พบพวกเขาในเว็บไซต์ บรรดาคลิปวิดีโอออนไลน์ที่คุณหลอดนอกจากนี้ยังพร้อมที่จะดูเพียงแค่คลิกปุ่มเมื่อเทียบกับไซต์วิดีโออื่น ๆ เกี่ยวกับเรื่องนั้นคุณจะต้องตอบแบบสำรวจครั้งแรกชำระค่าใช้จ่ายก่อนที่คุณจะได้รับชมวิดีโอออนไลน์ Benefit D : คุณสามารถได้รับข้อความของคุณทั่วทั้งเป็นล้านคนทั่วโลก
รวมอยู่ในรายการของประโยชน์ที่สำคัญของ YouTube เป็นความจริงที่ว่าคุณจะไปออกอากาศไปนับล้านของผู้เข้าพัก YouTube /สมาชิกทั้งในประเทศและต่างประเทศ ในความเป็นจริงในชีวิตประจำวันของผู้เข้าชมนับล้าน YouTube /สมาชิกเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์เพื่อดูหรืออัปโหลดวิดีโอ ผู้คนจำนวนมากจริงๆคุณหลอดใช้ในการส่งออกข้อความและความรู้สึกของตนหรือกิจกรรมต่างๆร่วมกันกับคนอื่น ๆ ไม่เพียง แต่ในประเทศ แต่ไปยังสถานที่จากทั่วโลก
YouTube เป็นเว็บไซต์ที่นิยมมากคุณสามารถไปถ้าคุณกำลังอยู่ในการค้นหาของคลิปวิดีโอออนไลน์หรือถ้าคุณต้องการโพสต์วิดีโอของคุณเอง นอกเหนือจากการวิดีโอฟรีบน YouTube จำไว้ว่าคุณยังสามารถใช้เว็บไซต์เพื่อประโยชน์ส่วนบุคคลที่จะเป็นที่นิยมเช่นเพื่อส่งเสริมการประกอบธุรกิจและอื่น ๆ เนื่องจากมีประโยชน์มากมายของ YouTube ของคุณมีคำถามว่าทำไมมันได้กลายเป็นไม่มี ส่วนสำคัญส่วนหนึ่งของเวิลด์ไวด์เว็บ

การใช้งาน Youtube
ขั้นตอนที่ 1
        หาคลิบที่ท่านชอบ ก่อนเลย แล้วสังเกตุ ด้านล่างขวามือ ให้เลือกคำสั่ง < Embed >
ขั้นตอนที่ 2
       ให้คลิกเม้าท์ด้านขวา และเลือกคำสั่ง Copy เนื้อหา ที่อยู่ในส่วนของ ช่องนี้ ทั้งหมด
ขั้นตอนที่ 3
          นำส่วนที่ Copy ทั้งหมดมาวางไว้  แล้ว Copy อีกครั้ง เฉพาะส่วนที่เป็นเนื้อหาของ Youtube
ให้ใช้เฉพาะ เนื้อหาที่อยู่ใน สัญลักษณ์ "____" ส่วนนี้เท่านั้นนะครับ ต้องระวังกันนิดนึง
ขั้นตอนที่ 4
          เคลียร์หน้าจอให้โล่ง ใหม่อีกครั้งครับแล้วจึงกดคำสั่งใช้งาน Flash ก็จะทำให้มีภาษาขึ้นมาตามรูป
ขั้นตอนที่ 5
           ให้นำ ส่วนที่ Copy มาวางระหว่าง [ Flash ] เหมือนกับในรูป และก็แก้ไขตัวเลข ความกว้าง,ความยาว ด้านซ้าย
ในตัวอย่างตั้งค่าเป็น กว้าง 500 ความยาว 400 ( ขนาดนี้กำลังพอดีเลย )

       การจัดอันดับการเข้าชมเว็บไซต์ในหลายประเทศโดยเว็บ alexa.com (19 กันยายน 2551) พบว่า อันดับ 1-10 ของแต่ละประเทศ ต้องมีเว็บที่ให้บริการรูปแบบ Social Network นั้นติดอยู่อย่างน้อยหนึ่งเว็บไซต์แตกต่างกันไป อย่างเช่นประเทศไทยนิยมที่สุดในตอนนี้คือ Hi5 ซึ่งสถิติการใช้งานเป็นอันดับ 2 รองจาก Google เลยทีเดียว
ที่มา :  alaska.reru.ac.th/4123628/social.ppt



ความหมายของ Social Network

ความหมายของ webboard
          WebBoard คือโปรแกรมที่ทำหน้าที่ในลักษณะเป็น กระดานสนทนา เป็นกระดานแจ้งข่าวสาร ข้อมูล และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน โดยใช้รูปแบบการแสดงผล HTML ที่นิยมใช้ใน World Wide Web.. WebBoard อนุญาตให้ผู้เยี่ยมชมเวปไซต์ และผู้พัฒนาเวปไซต์ สามารถตั้งหัวข้อกระทู้ เพื่อประกาศข่าวสาร แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้ ซึ่งจะมีความแตกต่างจาก GuestBook ตรงที่ WebBoard จะสามารถแยก หัวข้อต่างๆ ออกเป็นกระทู้ๆ มีความโต้ตอบกันในการสนทนา ในหัวข้อเดียวกันมากกว่า กล่าวได้ว่า WebBoard คือพัฒนาการในรูปแบบใหม่ ของระบบการสนทนาใน BBS (Bulletin Board System) ที่เคยได้รับความนิยม ก่อนที่ระบบเครือข่าย Internet จะเข้ามามีบทบาทมากขึ้น WebBoard ที่พบเห็นกัน มีอยู่หลายรูปแบบ สำหรับโปรแกรม D'Board ที่เปิดให้ใช้บริการนี้ จะเป็น WebBoard ในลักษณะเดียว (รูปแบบคล้าย) กับที่ใช้ใน pantip.com

.
ประเภทของเวบบอร์ด
             1.เวบบอร์ดที่เปิดให้คนทั่วไปร่วมแสดงความคิดเห็นได้ เป็นเวบบอร์ดเปิดกว้างสำหรับทุกความคิดเห็นของทุกคน ใครก็สามารถเข้ามาตั้งกระทู้ ตอบกระทู้ และโพสท์ข้อความแสดงความคิดเห็นได้ บางเวบไซต์จะมีการรับสมัครสมาชิกด้วย เพื่อรับสิทธิพิเศษ เช่น สามารถทำลิงค์ และโพสท์รูปได้ ตัวอย่างเช่น เวบบอร์ดของ http://www.pantip.com
              2.เวบบอร์ดข่าวเด็ด ประเด็นร้อน เวบบอร์ดนี้จะมีกระทู้ซึ่งทางเวบไซต์นั้นๆ จะเป็นผู้ตั้ง เพื่อเปิดให้บุคคลทั่วไปเข้ามาแสดงความคิดเห็นในหัวข้อข่าว หรือประเด็นต่างๆ เช่น เวบบอร์ดของ http://www.kapook.com
3.เวบบอร์ดที่เปิดให้เฉพาะสมาชิกเท่านั้น ต้องเป็นสมาชิกจึงจะ Log in เข้าไปโพสท์ข้อความได้ ส่วนใหญ่จะเป็นเวบบอร์ดของคณะ ชมรม บริษัท หรือกลุ่มต่างๆ
 ที่มา : http://www.thaicleannet.com/modules.php?name=tcn_stories_view&sid=117

ประโยชน์ webboard
1.เป็นสื่อกลางที่เป็นเหมือนเวทีให้คนเข้าไปแสดงความคิดเห็นแบบเสรี ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร ก็สามารถเข้าไปแสดงความคิดเห็นได้
            2.เป็นสถานที่แลกเปลี่ยนความรู้ ความคิดเห็นในทุกเรื่องที่คุณอยากรู้ โดยคุณสามารถเข้าไปตั้งคำถาม เพื่อไขข้อข้องใจ หรือตอบกระทู้เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนความรู้ให้แก่คนอื่น

ข้อเสียของเวบบอร์ด
            1.สามารถใช้เป็นเครื่องมือของผู้ไม่ประสงค์ดีได้ โดยการโพสท์ข้อความที่ใส่ร้ายผู้อื่น ทำให้เกิดความเสื่อมเสีย โพสท์ข้อความและรูปลามก อนาจาร หรือข้อความที่ยุยงส่งเสริมให้เกิดการทะเลาะเบาะแว้งกับผู้อื่น ฯลฯ
           2.สามารถใช้เป็นช่องทางหากินของมิจฉาชีพได้
            3.ใช้เป็นที่ระบายอารมณ์จนเกินขอบเขต กลายเป็นเรื่องไร้สาระ และผู้ส่งข้อความไม่แสดงความรับผิดชอบต่อข้อความนั้น
            4.การใช้เวบบอร์ดในทางที่ผิด ส่งผลให้เกิดการหมกมุ่น หรือใช้เวลากับเวบบอร์ดมากจนเกินความจำเป็น เป็นการเสียเวลา และส่งผลเสียกับผู้ใช้ในหลายๆ ด้าน

การใช้งาน Webboard
1. เมื่อเข้าไปในหน้าเวบบอร์ดแล้ว สามารถเข้าไปตั้งกระทู้ใหม่ได้ โดยคลิกเข้าไปที่ ตั้งกระทู้ใหม่ แล้วพิมพ์ข้อความ ถ้าต้องการโพสท์รูปภาพให้คลิกที่ Browse แล้วเลือกไฟล์ภาพที่ต้องการ บางเวบไซต์ต้องสมัครสมาชิกก่อนจึงจะสามารถโพสท์รูปได้
2. วิธีการตอบกระทู้ ให้คลิกเข้าไปที่กระทู้นั้นๆ จะปรากฏหน้าจอให้เข้าไปโพสท์ข้อความได้ เมื่อพิมพ์ข้อความเสร็จให้คลิกที่ปุ่ม ส่งข้อความ ข้อความของคุณจะถูกส่งขึ้นไปในเวบบอร์ดโดยอัตโนมัติ

คำแนะนำ และมารยาทในการใช้เวบบอร์ด
1.ไม่เสนอข้อความที่พาดพิง หรือหมิ่นต่อสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.ใช้ถ้อยคำที่สุภาพไม่ใช้ข้อความ และรูปภาพที่ส่อไปในทางลามกอนาจาร ท้าทาย หรือยุยงส่งเสริมให้เกิดการเข้าใจผิด อันจะนำไปสู่การทะเลาะเบาะแว้ง และไม่เสนอข้อความที่เกี่ยวข้องกับสิ่งผิดกฎหมาย
3.ไม่เสนอข้อความที่ใส่ร้ายผู้อื่น หมิ่นประมาท หรือนำข้อมูลส่วนตัวของผู้อื่นมาเผยแพร่
4.ระมัดระวัง ไม่ตั้งกระทู้ที่ซ้ำซ้อนกับกระทู้ที่ตั้งมาก่อนแล้ว และไม่ตั้งผิดกลุ่ม ผิดเป้าหมายของเวบ บอร์ดนั้นๆ
5.ไม่ควรใส่เบอร์โทรศัพท์ในการติดต่อกับบุคคลอื่น ให้ใส่เบอร์อีเมล์ หรือ Icq แทน

6.เปิดใจให้กว้าง เคารพ และยินดีรับฟังทุกความคิดเห็นของผู้อื่น หากพบข้อความที่ส่อไปในทางชวนทะเลาะ ไม่ควรโต้ตอบ
7.ไม่ใช้นามแฝง หรือชื่อจริงของผู้อื่นโดยเจตนา ซึ่งอาจจะส่งผลให้เกิดการเข้าใจผิดต่อการเป็นเจ้าของข้อความนั้น และอาจทำให้เจ้าของชื่อได้รับความเสื่อมเสีย

ข้อดีของการใช้ Webboard
    *  เป็นช่องทางในการติดต่อ ประกาศข่าวสาร ข้อมูล และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้
    * ทำให้เกิดสังคม ในการสนทนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน ระหว่างกลุ่มผู้เยี่ยมชม
    * ผู้พัฒนาโฮมเพจ สามารถใช้เป็นช่องทางในการ ประกาศข่าวใหม่ๆ แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้อื่นได้
    * ง่ายในการใช้งาน แม้จะเป็นผู้เริ่มต้น เมื่อเทียบกับการใช้ Mailing list หรือ News Group

 ข้อดีของการใช้ Webboard    * ไม่จำเป็นต้องมีความรู้เกี่ยวกับการเขียนโปรแกรม CGI script
    * ไม่จำเป็นต้องติดตั้งโปรแกรม CGI script ใน Server เอง
    * สามารถนำไปใช้ได้ แม้ว่า Server ของคุณจะไม่อนุญาตให้ติดตั้ง CGI script ได้เอง
    * สามารถกำหนดรูปแบบ ของหน้าต่างๆ ของ WebBoard ของคุณได้เอง โดยผ่านระบบการจัดการที่เตรียมไว้ให้
    * สามารถใช้ HTML code แตกหน้าตา หน้าต่างๆของ WebBoard ของคุณได้ (รวมถึง Java และ Javascript ด้วยเช่นกัน)
    * สามารถลบ และแก้ไข ข้อความ ที่มีผู้มาลงไว้ใน WebBoard ได้
    * สามารถใช้งานได้ ฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้นด้วยเวลาไม่ถึง 3 นาที ในการกรอกแบบฟอร์ม สมัครเป็นสมาชิก คุณก็สามารถ นำ WebBoard ของคุณไปใช้งาน ในโฮมเพจหรือเวปไซต์ ของคุณได้ทันที
    * และอื่นๆ...


เว็บไซต์ที่ที่ให้บริการเว็บบอร์ด
http://www.pantip.com
http://www.kapook.com
http://www.sanook.com


ความหมาย msn chat
คือ โปรแกรมที่ใช้ในการสนทนา MSN Messenger หรือที่ เราชอบเรียกกันว่า msn มันก็คือ โปรแกรมส่งข้อความข้าม ระบบเน็ทเวิร์ค แบบทันทีทันใด หรือภาษาฝรั่งเรียกว่า IM (Instant Messenger) ถ้าคุณเคยเล่นโปรแกรม ICQ IRC หรือ Pirch ก็เข้าข่ายเป็นโปรแกรมพวกเดียวกัน
ที่มา : http://jutharat.blogspot.com/2006/12/msn.html
 โปรแกรม Chat บนไซเบอร์อีกรูปแบบหนึ่งที่เราสามารถพูดคุยกับเพื่อนระหว่าง ประเทศและในประเทศได้ โปรแกรมนี้พัฒนามาจาก เว็บ Hotmail ที่อยากให้ผู้คนได้พูดคุย ผ่านทางอินเตอร์เน็ทมากขึ้น โปรแกรมนี้จัดว่าเป็นโปรแกรมยอดนิยมที่สุดในตอนนี้ก็ว่าได้ เพราะเป็นโปรแกรมที่ใช้ในการติดต่อสื่อสารมากมาย โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆนั่นเอง
ที่มา : http://www.dek-ac.com/knowledge87

ประโยชน์ของการใช้โปรแกรม  msn chat
- ใช้ในการติดต่อสื่อสารระหว่างบุคคล 2 คน หรือแบบกลุ่มก็ได้
- ใช้การวีดีโอลิ้งในการประชุมหรือสัมนาต่างๆผ่าน net
-สามารถส่งเอกสารต่างๆไม่่ว่าจะเป็นไฟล์ word,pdf หรือไฟล์นามสกุลอื่นๆ
-ใช้ในการติดต่อสื่อสารทางธุรกิจ
-สามารถติดต่อทางไกลได้เร็ว
-ไม่เสียค่าใช้จ่าย
-เป็นโปรแกรมที่ให้ใช้งานได้ฟรี
ที่มา : http://www.dek-ac.com/knowledge87

การใช้งาน
1.                  ทำการสมัครสมาชิกที่เว็บ hotmail.com
2.                  ทำการโหลดโปรแกรม msn ที่เว็บ http://loadmsn.wordpress.com หรือ http://download.msn.in.th
3.                  ทำการติดตั้งโปรแกรมลงเครื่องคอมพิวเตอร์ของเรา
4.                  เมื่อติดตั้งเสร็จทำการเปิดโปรแกรมขึ้นมา จะขึ้นหน้าต่างแบบภาพด้านล่าง

.ทำการใส่ user และ password ตามที่ได้สมัครไว้ตามข้อที่ 1
6.เมื่อเข้าระบบได้แล้วให้ทำการเพิ่มเพื่อนผู้ติดต่อ 
7. เมื่อเพิ่มชื่อเพื่อนหรือผู้ติดต่อเสร็จ หากเพื่อคุณออนไลน์อยู่ก็สามารถคุยได้เลยนะ
บทความโดย : www.dek-ac.com

การนำไปใช้
             เราสามารถทำการติด Chat Box นี้ไว้หน้าเว็บของเราเพื่อให้ผู้เยี่ยมชมเว็บเรา หรือต้องการติดต่อซื้อสินค้า หรือ Support ดูแลต่างๆ หรือไว้คุยกับเพื่อนกับฝูง หรือผู้เข้าชมเว็บ สามารถสนทนากับเราผ่าน MSN ของเราได้โดยทันที แบบ Realtime ไม่ต้องติดตั้งโปรแกรม Windows Live Messenger หรือ MSN ลงบนเครื่องเพื่อสนทนากับเราเพียงแค่เปิดเว็บก็คุย MSN กับเราได้แล้วครับ

น่าสนใจมากทีเดียวเลยใช่ไหมครับ เรามาดูวิธีการกันครับ

1. เราต้องเป็นสมาชิก และมี MSN Account อยู่แล้วนะครับ หากยังไม่มี
—- 1. สมัครสมาชิกเปิดขอใช้บริการอีเมลจาก hotmail.com
——– http://www.hotmail.com
—- 2. หรือทำ อีเมลของเราภายใต้@โดเมนของเรา ให้เล่น MSN ได้
2. เมื่อเรามี Account ของ Hotmail แล้วไม่ว่าจะ ใช้บริการอีเมลภาย ใต้ @hotmail หรือภายใต้ @domain ของเรา
2.1 ให้เปิดเว็บไซต์ http://settings.messenger.live.com/Applications/Default.aspx
2.2 คลิกเมนูการตั้งค่าเว็บ” (Web Settings)
—– ติ๊กอนุญาตให้เว็บไซต์สามารถมองเห็นสถานะของ Messenger ของคุณ และส่งข้อความถึงคุณได้
—– (Allow websites to see your Messenger status and send you messages)
—– กดบันทึก (Save)
2.3 สร้าง (HTMLCreate HTML)
—– ให้เลือกปรับขนาดและสีตามใจชอบได้เลยครับ
โดยบริการนี้จะมีให้เราเลือกสามส่วนคือ
หน้าต่าง IM (IM Window) สำหรับให้ระบบสร้าง Code หน้าต่าง MSN ให้เราไปติดเว็บครับ
ปุ๋ม (Button) สำหรับสร้างปุ๋มไว้ให้เราติดหน้าเว็บ
ไอคอนสถานะ(Status icon) สำหรับแสดง icon สถานะออนไลย์ของเราครับ
หลังจากนั้นให้นำ Code ที่ได้ด้านล่างมาแปะ ในหน้าเว็บที่เราต้องการ
แค่นี้เราก็มี live chat ไว้ให้ใครต่อใครคุย MSN กับเราได้สบายๆ และครับ
ลองดูและนำไปประยุคใช้กันดูนะครับ
สำหรับการเปลี่ยนภาษาที่แสดงหน้าต่างที่ไปติดบนเว็บเรานะครับ
หากจะให้เป็นภาษาไทยแก้ messenger.live.com&mkt=th-TH
ภาษาอังกฤษใส่ messenger.live.com&mkt=en-US
หวังว่าบทควานี้จะเป็นประโยชน์และถูกใจกันนะครับ
ใครลองนำไปปรับใช้อย่าลืมนำมาให้ชมผลงานบ้างนะครับ
เดี่ยวไว้ฉบับหน้าผมจะมาเขียนวิธีทำ Icon แสดงสถานะ Online บทหน้าเว็บโดยไม่ต้องพึ่ง ตัวแสดงสถานะของ hotmail ที่มีให้กันครับ
พบปัญหาเกี่ยวกับบทความหรือต้องการสอบถามเพิ่มเติมได้
ที่มา: http://www.select2web.com/other/msn-on-web.html

เว็บไซต์ที่ให้บริการ msn chat
www.kapook.com    Kapook MSN Messenger Guide
www.hotmail.com


ความหมาย  youtube
         YouTube   คือ   เป็นเว็บไซต์แลกเปลี่ยนภาพวิดีโอที่มีชื่อเสียงมากที่สุด ที่สำคัญทุกอย่างที่นี่ฟรี โดยในเว็บไซต์นี้ ผู้ใช้สามารถใส่ภาพวิดีโอเข้าไป เปิดดูภาพวิดีโอที่มีอยู่ และแบ่งภาพวิดีโอ เหล่านี้ให้คนอื่นดูได้ด้วย
        YouTube ก่อตั้งขึ้นเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2005 โดยอดีตพนักงานของ PayPal สามคนด้วยกัน (ปัจจุบัน PayPal ถูก eBay ซึ้อไปเรียบร้อยแล้ว) ใน YouTube จะมีบริการแสดงภาพวิดีโอซึ่งอาศัยเทคโนโลยีของ Adobe Flash ในการแสดงภาพวิดีโอ (Adobe Flash หรือที่หลายๆ คนรู้จักในชื่อของ Macromedia Flash หรือ Flash (แฟลช) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่นิยมมาก ในการทำภาพแอนิเมชั่นและการทำโปรแกรมเล็กๆ ที่ใช้สร้างปฏิสัมพันธ์กับผู้เข้าชมเว็บ โดยมีซอฟต์แวร์ ระบบ และอุปกรณ์หลายชนิดที่สามารถสร้างแฟลชและแสดงแฟลชได้ แฟลชจึงสามารถนำไปใช้งานได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นสร้างแอนิเมชั่น โฆษณา สร้างส่วนประกอบของหน้าเว็บ รวมภาพวิดีโอเข้าไปในหน้าเว็บ รวมถึงการสร้างพอร์ทัล)
        ใน YouTube จะมีข้อมูลเนื้อหารวมถึงคลิปภาพยนตร์สั้นๆ และคลิปที่มาจากรายการโทรทัศน์ มิวสิกวิดีโอ และวิดีโอบล็อกกิ้งซึ่งเป็นการสร้างบล็อกโดยมีส่วนของข้อมูลที่เป็นภาพ วิดีโอเป็นส่วนประกอบด้วย โดยเฉพาะเป็นภาพวิดีโอที่เกิดจากมือสมัครเล่นถ่ายกันเอง) ปัจจุบัน YouTube มีพนักงานเพียง 67 คนเท่านั้น
        YouTube เติบโตอย่างรวดเร็วในช่วงระยะเวลาสั้นๆ และได้รับความ สนใจเป็นอันมาก โดยเฉพาะการบอกแบบปากต่อปากที่ทำให้การเติบโตของ YouTube เป็นไป อย่างรวดเร็วมากจริงๆ YouTube มาเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายต่อเนื่อง เมื่อมีการนำภาพวิดีโอช่วง Lazy Sunday ของรายการ Saturday Night Live มาแสดงบนเว็บ ซึ่งต่อมาเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ทางสถานีโทรทัศน์เอ็นบีซี (NBC) ก็ได้เรียกร้องให้ทาง YouTube เอาคลิปวิดีโอที่มีลิขสิทธิ์ทั้งหลายออกจากเว็บ ซึ่ง YouTube เองก็มีนโยบายที่จะไม่เอาคลิปที่ละเมิดลิขสิทธิ์มาแสดงเช่นกัน นั่นทำให้ต่อมา You Tube กำหนดนโยบายที่ชัดเจนขึ้นในเรื่องนี้ โดยกำหนดให้คลิปวิดีโอมีความยาวสูงสุดเพียงแค่ 10 นาทีเท่านั้นยกเว้นเป็นคลิปที่มีหลักฐานว่าสร้างขึ้นจากคนทำภาพยนตร์มือ สมัครเล่นเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้ YouTube ก็หาทาง ออกโดยการแบ่งภาพวิดีโอของตนเป็นชิ้นย่อยๆ แต่ละชิ้นยาวน้อยกว่า 10 นาทีแทน
            อย่างไรก็ตาม กรณีพิพาทกับสถานีโทรทัศน์เอ็นบีซีก็ทำให้ YouTube เป็นข่าวและเพิ่มความดังมากขึ้นไปอีก และต่อมาเอ็นบีซีก็เห็นถึงประสิทธิภาพของ YouTube และตัดสินใจ ดำเนินยุทธศาสตร์ที่ต่างไปจากเดิม โดยประกาศให้ YouTube เป็นพันธมิตรทางยุทธศาสตร์แทน โดย YouTube จะเป็นคนโฆษณารายการของเอ็นบีซีในรูปของวิดีโอคลิปในเว็บของ YouTube เช่นเดียวกับสถานีโทรทัศน์ซีบีเอส (CBS) ที่เริ่มต้นเหมือนกับเอ็นบีซีและเลือกลงท้ายเหมือนกับเอ็นบีซีเช่นเดียวกัน
            เดือน สิงหาคมที่ผ่านมา YouTube ประกาศว่าภายใน 18 เดือนข้างหน้านี้ พวกเขา จะสามารถเปิดให้เข้ามาดูมิวสิกวิดีโอทุกเพลงที่เคยสร้างขึ้นมาได้ และแน่นอน ทุกอย่างฟรีหมด โดยวอร์เนอร์มิวสิค (Warner Music) และอีเอ็ม ไอ (EMI) ได้ยืนยันแล้วว่าพวกเขาเป็นหนึ่งในบริษัทที่กำลังเจรจาในรายละเอียดกับ YouTube อยู่ และเดือนกันยายนที่ผ่านมา วอร์เนอร์มิวสิก และ YouTube ก็ได้เจรจาข้อตกลงที่ YouTube จะเป็นที่เก็บมิวสิกวิดีโอทุกเพลงที่วอร์เนอร์มิวสิค ผลิตขึ้นมา โดยพวกเขาจะแบ่งรายได้จากโฆษณา กัน นอกจากนี้ใครก็ตามที่สร้างคลิปวิดีโอเพื่อแสดงบน YouTube ก็สามารถนำเพลงของวอร์เนอร์มาใช้เป็นซาวด์แทร็กต์ได้ โดยไม่ถือว่าละเมิดลิขสิทธิ์แต่อย่างใด
            9 ตุลาคมที่ผ่านมา ซีบีเอสรวมถึงยูเอ็มจี (UMG-Universal Music Group) และโซนี่บีเอ็มจี (Sony BMG) ก็ตัดสินใจที่จะแสดงงานของตนบน YouTube เช่นกัน

ความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นทันที เมื่อกูเกิ้ล ประกาศเมื่อวันที่ 9 ตุลาคมที่ผ่านมา ว่าตกลงตัดสินใจเข้าซื้อ YouTube ด้วยมูลค่า 1,650 ล้านเหรียญสหรัฐ ในรูปแบบของการแลกเปลี่ยนหุ้น อย่างไรก็ตาม YouTube ก็ยังคงดำเนินกิจกรรม ของบริษัทไปตามปกติ โดยเป็นอิสระจากการควบคุมของกูเกิ้ล โดยกูเกิ้ลมองว่า YouTube เป็นชุมชนออนไลน์ทางด้านวิดีโอเพื่อความบันเทิง ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดและมีการเติบโตรวดเร็วที่สุด ในขณะที่กูเกิ้ลมองตัวเองว่าเป็นบริษัทที่เชี่ยวชาญ ทางด้านการจัดการข้อมูลสารสนเทศ และการสร้างโมเดลใหม่ทางด้านการโฆษณาบนอินเทอร์เน็ต การรวมกันของสองบริษัทนี้จะมุ่งเน้นไปที่การเพิ่มประสบการณ์ที่ดีขึ้นและ เข้าใจได้มากขึ้น สำหรับผู้ใช้ที่สนใจในการอัพโหลด การดูวิดีโอ และการแชร์ภาพวิดีโอ รวมถึงการนำเสนอโอกาสใหม่ๆ สำหรับผู้เป็นเจ้าของ ข้อมูล (Content) ที่เป็นมืออาชีพที่จะนำเสนองานของพวกเขาไปสู่คนวงกว้าง
             เมื่อ มองถึงโมเดลการสร้างรายได้ของ YouTube นั้นโมเดลธุรกิจของ YouTube จะอาศัยการโฆษณาเป็นหลัก นักวิเคราะห์ทางอุตสาหกรรม บางคนเห็นว่า YouTube มีค่าใช้จ่ายด้านการบริหารงาน (running cost) โดยเฉพาะอย่างยิ่ง YouTube ต้องการใช้แบนด์วิธซึ่งอาจจะมีค่าใช้จ่ายสูงถึง 1 ล้านเหรียญสหรัฐต่อเดือน ดังนั้นจึงทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์ต่อตัวบริษัทในทำนองว่าจะเหมือนๆ กับบริษัทที่เพิ่งเริ่มต้นธุรกิจบนอินเทอร์เน็ต หลายๆ แห่ง ที่ไม่มีโมเดลธุรกิจใดที่สามารถใช้งานได้ การใช้โฆษณาเริ่มเข้าปรากฏชัดเจนบนเว็บไซต์ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2006 ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา YouTube ได้เริ่มใช้ Google AdSense ซึ่งเป็นโปรแกรมบริหารจัดการโดยกูเกิ้ลในการคำนวณรายได้จากโฆษณาที่ปรากฏใน เว็บไซต์นั้นๆ แต่ YouTube สุดท้ายก็หยุดใช้ AdSense ในที่สุด นักวิเคราะห์บางคนคิดคำนวณว่า YouTube อาจจะมีรายได้มากถึงหลายล้านเหรียญสหรัฐต่อเดือน ซึ่งก็จะทำให้ YouTube สามารถสร้างรายได้สุทธิได้มากมายในแต่ละเดือน
          แต่เมื่อกูเกิ้ลเข้า มาซื้อ YouTube ไป การเปลี่ยนแปลงจะต้องเกิดขึ้นกับ YouTube อย่างแน่นอน ในอนาคตอันใกล้แม้จะมีการออกมาบอกว่า YouTube จะได้รับอิสระในการบริหารจัดการก็ตามที แน่นอนว่าระบบการจัดการรายได้ โดยเฉพาะการกำหนดโมเดลการสร้างรายได้ใหม่ๆ ในเว็บไซต์ของ YouTube จะต้องเกิดขึ้น แต่ที่เราพอจะวางใจได้ในฐานะคนใช้งานและคนใช้บริการเว็บไซต์ YouTube ก็คือ ทุกอย่างน่าจะยังคงฟรีต่อไปอีก เพราะที่ผ่านมาการให้บริการของกูเกิ้ลก็เป็นในลักษณะให้บริการฟรีเกือบทั้ง สิ้น โดยเฉพาะการสร้างโมเดลธุรกิจที่อิงกับการอาศัยของฟรีเป็นตัวกำหนดตลอดมา
           เมื่อมองถึงวงการบันเทิง การที่กูเกิ้ลเข้าครอบครอง YouTube จะเป็นการเพิ่มช่องทางในการแข่งขันในธุรกิจบันเทิงที่สำคัญยิ่ง ที่ผ่านมาจะเห็นการเริ่มเคลื่อนไหวที่ชัดเจนของยักษ์ใหญ่ในวงการอินเทอร์ เน็ตในการเปิดให้บริการภาพยนตร์รวมถึงรายการโทรทัศน์ผ่านทางอินเทอร์เน็ตที่ เริ่มจะเข้มข้นมากขึ้นเรื่อยๆ การประกาศเข้าเทกโอเวอร์ของกูเกิ้ลครั้งนี้จึงเป็นจิ๊กซอว์ที่เข้ามาเติม เต็มการวาดภาพอนาคตของกูเกิ้ลในวงการบันเทิงที่ให้ภาพที่ชัดเจนยิ่งขึ้น ความเคลื่อนไหวในการแย่งชิงส่วนแบ่งตลาดสินค้าบันเทิง ไม่ว่าจะเป็นเพลง ภาพยนตร์ และรายการโทรทัศน์ ที่มีบริษัทในวงการอินเทอร์เน็ตเข้าไปเกี่ยวข้องแบบเกาะติดมากขึ้นจึงดุ เดือดเลือดพล่านในระดับที่คนเฝ้าดูอย่างเราๆ ไม่สามารถกระพริบตาได้ สิ่งที่จะต้องมองต่อไปก็คือ คู่แข่งของกูเกิ้ล จะว่าอย่างไรบ้าง ไม่ว่าจะเป็นคู่แข่งในธุรกิจอินเทอร์เน็ตด้วยกันเอง ไม่ว่าจะเป็นยาฮูและไมโครซอฟท์ แต่ยังรวมถึงคู่แข่งรายอื่นๆ อย่างในวงการมือถือและวงการสื่อสารมวลชน เป็นต้น
             กูเกิ้ลชิงความได้ เปรียบครั้งสำคัญโดยเฉพาะการเข้าครอบครองกิจการ YouTube ที่จะเป็นบันไดสำคัญในการเพิ่มส่วนแบ่งในตลาดบันเทิงในอนาคต YouTube ที่มีการเติบโตอย่าง รวดเร็วด้วยโมเดลธุรกิจที่เหมือนกับการสร้างทำโฮมวิดีโอในสมัยก่อนแต่อาศัย ช่องทางอินเทอร์เน็ตในการสร้างความนิยมอย่างรวดเร็ว กูเกิ้ลและ YouTube จึงเป็นการจับคู่ทางธุรกิจที่น่าสนใจที่สุดคู่หนึ่งในปีนี้ และจะมีผลต่อการเปลี่ยนแปลง เชิงโครงสร้างของวงการบันเทิงในอนาคตอย่างแน่นอน

ผู้ใช้อินเทอร์ เน็ตบรอดแบนด์ส่วนใหญ่จะรู้จัก และชื่นชอบเว็บไซต์รวมคลิปวิดีโออย่าง YouTube ซึ่งก่อนหน้านี้ นิตยสารคอมพิวเตอร์.ทูเดย์ได้จัดทำเป็นเรื่องเด่นประจำฉบับที่ 291 ปักษ์แรกเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ล่าสุดเว็บไซต์แชร์วิดีโออันดับหนึ่งของโลกได้ถูกแกะรอยสถิติโดยเว็บไซต์ หนังสือพิมพ์ วอลสตรีท เจอนัล ซึ่งทำให้ได้ข้อมูลคร่าวๆ ว่า ขนาดของฮาร์ดดิสก์ที่ใช้จัดเก็บวิดีโอทั้งหมดเป็นเท่าไร อัตราการเติบโต กิจกรรมของผู้ใช้ ตลอดจนคำยอดฮิตที่ใช้เป็นชื่อไตเติลวิดีโอ เราลองมาดูรายละเอียดของตัวเลขสถิติเหล่านั้นกันดีกว่า 
          - YouTube มีวิดีโอทั้งหมดมากกว่า 6 ล้านคลิป โดยอัตราการเพิ่มจำนวนคลิปวิดีโอ 20% ต่อเดือน
          - คลิปวิดีโอทั้งหมดจะต้องใช้พื้นที่ในการจัดเก็บถึง 45 เทอราไบต์ หรือเทียบเท่ากับความจุของฮาร์ดดิสก์ของคอมพิวเตอร์ตามบ้านรวมกัน 5,000 ครัวเรือน
         - หากคุณต้องการดูวิดีโอทั้งหมดใน YouTube จะต้องใช้เวลาทั้งสิ้น 9,305 ปี
         - สำหรับคอนเท็นต์ที่เปิดให้บริการจะมีค่าแบนด์วิดธ์คิดเป็นเงินหลายล้านเหรียญฯ ต่อเดือน
         - วิดีโอคลิปในเซ็คชั่น most popular จะมีเปอร์เซ็นต์ของแทรฟฟิกการเข้าชมสูงมากเป็นพิเศษ
        - คำว่า “dance”, “love”, “music” และ “girl” ถูกใช้เป็นชื่อไตเติลของวิดีโอมากที่สุ

ประโยชน์ของ youtube
       1. เป็นแหล่งเรียนรู้ที่ให้ข้อมูลต่างๆซึ่งสามารถทำความเข้าใจได้ง่าย ยกตัวอย่างเช่น การสอนการแต่งหน้า ซึ่งเป็นเทคนิคที่ทำความเข้าใจยาก ถ้าศึกษาจากหนังสือหรือนิตยสาร เราก็ไม่สามารถเห็นการลงมือปฏิบัติแต่งหน้าที่ชัดเจน เช่นการเลือกสี การลงสี และน้ำหนักหนัก-เบา แต่การศึกษาจาก youtube เราสามารถทำความเข้าใจและปฏิบัติตามได้อย่างถูกต้องเหมาะสม
       2. เป็นแหล่งรวมความบันเทิง เช่น เพลง มิวสิควิดีโอ เป็นต้น
       3. เป็นแหล่งเรียนรู้ให้ศึกษาการทดลองทางวิทยาศาสตร์จากทั่วโลก เช่น การทดลองทางด้านbiological molecular ได้แก่ การทำ PCR , พันธุวิศวกรรม เป็นต้น
       4. สามารถทำให้เราติดตามดูละคร หรือรายการทีวีย้อนหลังได้ เช่น  ละครเนื้อคู่อยากรุ้ว่าใคร

โทษของ youtube
         1. เยาวชนอาจจะนำ youtube มาใช้ในทางที่ผิด เช่น การใช้กำลังในการแก้ปัญหา แล้วถ่ายคลิปลงใน youtube ทำให้เป็นแบบอย่างที่ไม่ดีกับผู้ที่เข้ามาดูคลิปนี้
         2. เป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ เช่นการเอาหนังที่เข้าฉายในโรงภาพยนตร์มาลง youtube
           3. มีคลิปที่ไม่เหมาะสมกับเยาวชน เช่นคลิปลามากอนาจาร คลิปที่ส่อแนวไปในทางมีเพศสัมพันธ์ เป็นต้น
           4. เป็นการสร้างความเชื่อที่ผิดๆโดยการนำความนำเสนอข้อมูลที่ไม่เป็นจริง เช่น การกินเมนทอสพร้อมน้ำอัดลมทำให้เป็นอันตรายถึงชีวิตได้
               ไม่ว่าคุณจะสร้างวิดีโอวิดีโอดูหรือต้องการที่จะเป็นแบบออนไลน์ที่มีชื่อเสียง, คุณก็จะได้รับประโยชน์มากจากการใช้งานร่วมกันและการดูวิดีโอคลิป YouTube ออนไลน์ ใช่กับเว็บไซต์ YouTube, คุณสามารถดูวิดีโอออนไลน์โพสต์วิดีโอของคุณเองและอื่น ๆ ที่นี่หลายประโยชน์ของ YouTube เป็นคำอธิบายสั้น ๆ ของวิธีการที่คุณสามารถใช้ประโยชน์จากวิดีโอ YouTube คือ

ประโยชน์ : การสร้างบัญชีในเว็บไซต์ฟรี
            หากต้องการดูมากที่สุดของวิดีโอฟรีบน YouTube คุณไม่จำเป็นต้องสร้างบัญชีผู้ใช้กับเว็บไซต์ แต่ถ้าคุณวางแผนที่จะอัปโหลดวิดีโอของคุณเองก็ต้องการที่คุณลงทะเบียนกับ YouTube แรกคือ หนึ่งในผลประโยชน์ YouTube คุณจะดีใจที่จะได้ยินคือมีความเป็นอิสระในการสร้างบัญชีที่มีเว็บไซต์ ซึ่งแตกต่างจากวิดีโออื่น ๆ ร่วมกันและการอัปโหลดเว็บไซต์, YouTube ไม่คิดค่าบริการจึงสามารถโพสต์คลิปวิดีโอออนไลน์โดยไม่ต้องปลอกกระสุนออกเงิน
Benefit B : ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีเพื่อสร้างบัญชี YouTube
              บางส่วนของผลประโยชน์ของ YouTube คือความจริงที่ว่าใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีสำหรับคนที่ประสบความสำเร็จกับการเข้าสู่ระบบ YouTube ซึ่งหมายความว่าหากภารกิจของคุณคือการอัปโหลดวิดีโอและไม่ได้จริงๆในการดูวิดีโอออนไลน์บนเว็บไซต์ของคุณเท่านั้นจะต้องรอเรื่องของการนาทีและคันคุณและส่วนที่เหลือของโลกจะสามารถเห็นของคุณ โพสต์วิดีโอ
Benefit C : เว็บไซต์ที่มีเนื้อหามากมายสำหรับการดูและดาวน์โหลด
              ประโยชน์ที่สมควรจะกล่าวถึงอีกประการหนึ่งก็คือมีวิดีโอฟรีมากมายบน YouTube ไม่ว่าคุณต้องการที่จะดูตลกคลิปวิดีโอเซ็กซี่และอื่น ๆ คุณจะบ่อยกว่าไม่พบพวกเขาในเว็บไซต์ บรรดาคลิปวิดีโอออนไลน์ที่คุณหลอดนอกจากนี้ยังพร้อมที่จะดูเพียงแค่คลิกปุ่มเมื่อเทียบกับไซต์วิดีโออื่น ๆ เกี่ยวกับเรื่องนั้นคุณจะต้องตอบแบบสำรวจครั้งแรกชำระค่าใช้จ่ายก่อนที่คุณจะได้รับชมวิดีโอออนไลน์ Benefit D : คุณสามารถได้รับข้อความของคุณทั่วทั้งเป็นล้านคนทั่วโลก
รวมอยู่ในรายการของประโยชน์ที่สำคัญของ YouTube เป็นความจริงที่ว่าคุณจะไปออกอากาศไปนับล้านของผู้เข้าพัก YouTube /สมาชิกทั้งในประเทศและต่างประเทศ ในความเป็นจริงในชีวิตประจำวันของผู้เข้าชมนับล้าน YouTube /สมาชิกเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์เพื่อดูหรืออัปโหลดวิดีโอ ผู้คนจำนวนมากจริงๆคุณหลอดใช้ในการส่งออกข้อความและความรู้สึกของตนหรือกิจกรรมต่างๆร่วมกันกับคนอื่น ๆ ไม่เพียง แต่ในประเทศ แต่ไปยังสถานที่จากทั่วโลก
YouTube เป็นเว็บไซต์ที่นิยมมากคุณสามารถไปถ้าคุณกำลังอยู่ในการค้นหาของคลิปวิดีโอออนไลน์หรือถ้าคุณต้องการโพสต์วิดีโอของคุณเอง นอกเหนือจากการวิดีโอฟรีบน YouTube จำไว้ว่าคุณยังสามารถใช้เว็บไซต์เพื่อประโยชน์ส่วนบุคคลที่จะเป็นที่นิยมเช่นเพื่อส่งเสริมการประกอบธุรกิจและอื่น ๆ เนื่องจากมีประโยชน์มากมายของ YouTube ของคุณมีคำถามว่าทำไมมันได้กลายเป็นไม่มี ส่วนสำคัญส่วนหนึ่งของเวิลด์ไวด์เว็บ

การใช้งาน Youtube
ขั้นตอนที่ 1
        หาคลิบที่ท่านชอบ ก่อนเลย แล้วสังเกตุ ด้านล่างขวามือ ให้เลือกคำสั่ง < Embed >
ขั้นตอนที่ 2
       ให้คลิกเม้าท์ด้านขวา และเลือกคำสั่ง Copy เนื้อหา ที่อยู่ในส่วนของ ช่องนี้ ทั้งหมด
ขั้นตอนที่ 3
          นำส่วนที่ Copy ทั้งหมดมาวางไว้  แล้ว Copy อีกครั้ง เฉพาะส่วนที่เป็นเนื้อหาของ Youtube
ให้ใช้เฉพาะ เนื้อหาที่อยู่ใน สัญลักษณ์ "____" ส่วนนี้เท่านั้นนะครับ ต้องระวังกันนิดนึง
ขั้นตอนที่ 4
          เคลียร์หน้าจอให้โล่ง ใหม่อีกครั้งครับแล้วจึงกดคำสั่งใช้งาน Flash ก็จะทำให้มีภาษาขึ้นมาตามรูป
ขั้นตอนที่ 5
           ให้นำ ส่วนที่ Copy มาวางระหว่าง [ Flash ] เหมือนกับในรูป และก็แก้ไขตัวเลข ความกว้าง,ความยาว ด้านซ้าย
ในตัวอย่างตั้งค่าเป็น กว้าง 500 ความยาว 400 ( ขนาดนี้กำลังพอดีเลย )